เนื่องด้วยปัญหาก่อนหน้านี้ที่ Kaspersky ทยอยเล่นของแก่ทุก ๆ คนที่ใช้ Exploit ทำให้ถูกลบ "แคร็ค" ทุกครั้งที่เปิดเครื่องไปตาม ๆ กัน แต่บางคนก็ไม่โดน ยังใช้ได้ปกติ (ผมไปเห็นที่คอมเครื่องของเพื่อนมา) แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้มีวิธีแก้ออกมาแล้วนั่นเอง

วิธีดังกล่าวนี้ไม่รู้ว่าต้นทางมาจากที่ใคร แต่อยู่ที่รัสเซียบ้านเกิด Kaspersky นั่นแหละ แต่ที่แน่ ๆ ปลายทางที่ผมได้มาคือคุณ = V = นั่นเอง ผู้ที่คอยช่วยเหลือเรื่องแคร็คมาตั้งแต่คราวก่อนแล้ว ต้องขอขอบคุณ ณ ที่นี้ด้วยครับ

เพื่อไม่ให้ยืดยาวเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...

ผมขออธิบายเกี่ยวกับปัญหาคราวก่อนสักเล็กน้อย เนื่องจาก Kaspersky ได้ทำการอุดช่องโหว่ แคร็ค ด้วยการกำหนดให้ Kaspersky ทำการแสกนโฟลเดอร์ที่ติดตั้งก่อนที่จะบูทเข้า Windows เสียอีก เป็นเหตุให้แม้แต่ Exclusion ก็เอาไว้ไม่อยู่นั่นเอง ดังนั้นวิธีแก้ทางใหม่ของแฮ็คเกอร์ก็คือ ย้าย "แคร็ค" มาไว้ใน System โฟลเดอร์เสียเลย ดังนั้นการสั่งแสกนไฟล์ในโฟลเดอร์ที่ติดตั้งของ Kaspersky ก่อนบูทเข้า Windows ก็เป็นอันตกไป

==========================

สิ่งที่ต้องเตรียม

Kaspersky Key Exploit Fixed

http://www.duckload.com/dl/hHnu2

==========================

ต่อไปนี้เป็นวิธีการติดตั้ง

1. สำหรับคนที่เพิ่งติดตั้งโปรแกรมครั้งแรก แนะนำให้อัพเดทฐานข้อมูลให้เป็นล่าสุดเสียก่อน เพื่อป้องกันปัญหาการ Exclusion ด้วยวิธีปกติไม่ได้ (อาจ Activate ด้วย Trial key ก่อน แล้วอัพเดทให้เสร็จ)

2. ทำการปิด Self-Defense และออกจากโปรแกรม Kaspersky

3. ขั้นตอนนี้ให้ดูตาม Windows ที่คุณติดตั้ง

สำหรับ Windows 32 bit ให้เข้าไปที่ C:\Windows\system32 หาไฟล์ที่ชื่อ fltlib.dll จากนั้นให้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น fltli2.dll

สำหรับ Windows 64 bit ให้เข้าไปที่ C:\Windows\sysWOW64 หาไฟล์ที่ชื่อ fltlib.dll จากนั้นให้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น fltli2.dll

*ใครมีปัญหาในการเปลี่ยนชื่อให้ดูคำอธิบายด้านล่าง

4. หลังจากเปลี่ยนชื่อเสร็จแล้ว ให้นำแคร็ค fltlib.dll ที่อยู่ในโฟลเดอร์แคร็ค (ดูรุ่นให้ตรงกับ Windows ที่ติดตั้ง) ไปวางไว้กับไฟล์ที่เปลี่ยนชื่อในข้อที่ 3 เลย

5. ต่อมาให้นำ fltlib.ini ไปไว้ในโฟลเดอร์ที่ติดตั้ง Kaspersky ตามรุ่นที่คุณติดตั้ง โดยในที่นี้ได้ตั้งเอาไว้ที่ 5,000 วัน กับ 20,000 เครื่อง

6. ทำการแก้ไข Registry ด้วยการ Double Click ไฟล์ ksn_fix_x86.reg (หรือ ksn_fix_x64) แล้วกด Yes เพื่อแก้ไข เลือกให้ตรงรุ่นกับ Windows ด้วย (ผมสันนิษฐานว่าขั้นตอนนี้จะทำให้ไม่มีการส่งข้อมูลก ารใช้งานไปยัง Kaspersky Lab)

ในขั้นตอนที่ 6 นี้ หากไม่ได้เป็นอย่างที่ผมพูดเป๊ะ หรืองงทำไม่ถูก จะข้ามไปเลยก็ได้ครับ เพราะถึงไม่ทำขั้นตอนนี้ก็ยังสามารถใช้แคร็คได้อยู่ด ี ถ้าแคร็คจะใช้ได้

7. เมื่อเรียบร้อยแล้วให้รัน Kaspersky ขึ้นมา แล้วทำการ Activate Key เข้าไป อาจจะ Activate ด้วย Trial key หรือจะหาคีย์มาใส่เองก็ได้

**รันโปรแกรมไม่ขึ้น ให้ดูคำอธิบายด้านล่างที่ 2

8. ทำการ Scan โฟลเดอร์ C:\Windows\system32 หรือ C:\Windows\sysWOW64 ตามแต่ที่ติดตั้งแคร็คเอาไว้ แล้วทำการ Add to Exclusion กับไฟล์แคร็ค ที่โปรแกรมเจอ

9. ทำการเปิด Self-Defense แล้วใช้งานได้เลย

==========================

*สำหรับคนที่มีปัญหาในการเปลี่ยนชื่อไฟล์ fltlib.dll (อิง Windows 7)

1. คลิกขวาที่ fltlib.dll เลือก Properties

2. ไปที่ แท็บ Security เลือก Advanced

3. ในหน้าต่างใหม่ ไปที่แท็บ Owner แล้วเลือก Edit...

4. แล้วดูที่รายชื่อในช่อง "Change owner to" ให้เลือก User ที่เป็นเรา แล้วกด OK

5. ให้กลับมาที่หน้า Properties ที่เลือก Advanced ตอนแรก แต่ครั้งนี้ให้เลือก Edit...

6. ในรายชื่อ ให้เลือกชื่อที่เราเลือกในขั้นตอนก่อนหน้านี้ แล้วมาดูที่ช่อง "Permissions for Users"

7. ในแถว Allow ให้ใส่เครื่องหมายในบรรทัด Full control แล้วกด OK ออกมา

8. ตอนนี้เราสามารถเปลี่ยนชื่อได้แล้ว

==========================

**สำหรับคนที่ทำเรียบร้อยแต่รันโปรแกรมไม่ขึ้น

อ้างอิงจากคุณ KRINT ใน Shoutbox ให้คุณถอนการติดตั้ง Kaspersky 2011 แล้วลง Kaspersky 2010 ลงไปแทน จากนั้นค่อยลง Kaspersky 2011 ทับอีกทีเพื่ออัพเกรดโปรแกรม (เช่น ลง KIS 2010 ก่อน แล้วค่อยลง KIS 2011) แล้วทำตามขั้นตอนด้านบนอีกครั้ง แต่ถ้ายังทำไม่ได้อีกให้ดูที่ ***

Kaspersky Anti-Virus 2010 | Kaspersky Internet Security 2010

==========================

***สำหรับคนที่ทำยังไงก็ไม่ได้ หรือทำได้แล้วใช้ไปสักพักก็มีปัญหา CPU รัน 100% ฯลฯ

แนะนำโดยผมเอง เพราะผมเห็นหลาย ๆ คนเป็นกัน ซึ่งอยากให้คุณทำใจไว้เลย เพราะคุณเป็นผู้โชคร้ายที่ซาตานไม่เข้าข้าง ขอให้ไปตามห้างร้านแล้วซื้อหาของแท้มาใช้แก้ขัดไปก่อ น รอแคร็คเวอร์ชันที่เสถียรกว่านี้แล้วค่อยเปลี่ยนมาใช ้แคร็ค (เพื่อ?) เอาเป็นว่า ถอนแคร็คที่ติดตั้งไปตามวิธีข้างต้น เปลี่ยนชื่อไฟล์ต่าง ๆ ให้กลับมาเป็นตามเดิมอย่างที่ Windows เป็น แล้วหันไปใช้จำพวก Trial Reset ไปก่อนก็ได้ แต่ถ้าหากว่าคุณไม่อาจยอมรับชะตามกรรมนี้ได้ แนะนำให้รื้อแคร็คออกทั้งหมด ถอนโปรแกรม แล้วเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง หรืออีกวิธีหนึ่งคือ กลับไปใช้วิธีเก่า หากว่าคุณยังไม่เคยทำแบบวิธีเก่า หรือก่อนที่คุณเปลี่ยนมาเป็นวิธีวิธีเก่ายังไม่โดนบล ็อค เพราะมีคนบางส่วนยังคงสามารถใช้วิธีเก่าได้อย่างไม่ม ีปัญหานั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ต้องขออภัยกับทุกท่านที่ทำตามวิธีดังกล่าวแล้วไม่เวิ ร์ค ใช้ไม่ได้ ทำให้เสียเวลากันยกใหญ่

==========================

Tips

ความลับของวันเวลาหมดอายุอยู่ที่ fltlib.ini คุณสามารถเข้าไปแก้ไขได้ ด้วยการเปิดไฟล์ด้วย notepad แก้ไขแล้ว save กลับเหมือนเดิม

==========================

ในตอนนี้ผมขอโพสไว้เพียงข้อความก่อนนะครับ เดี๋ยวรูปจะตามมาทีหลัง เพราะตอนนี้ จขบ. ยุ่งมากกับงานที่กองอยู่ แต่ก็พยายามเขียนอย่างเข้าใจง่ายที่สุด หากสงสัยอะไร Comment ถามไว้เลยครับ จะพยายามช่วยตอบให้ ส่วนใครที่เอาไปลองแล้ว กลับมาคอนเฟิร์มด้วยนะครับ ว่าได้หรือไม่ได้ยังไง แล้วบอกรุ่น Kaspersky กำกับไว้ด้วยนะครับ

==========================

Status

Kaspersky 2011
Kaspersky 2010
Kaspersky 2009
Kaspersky Pure